กาญจนบุรี หลายอำเภอ..หลายแหล่งท่องเที่ยว ครบทั้ง ธรรมชาติ และ วัฒนธรรม

เดินสายเที่ยวจังหวัดภาคกลางมาแล้วหลายแห่ง จนมาถึงคิวของ จังหวัดกาญจนบุรี เมืองท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะอยู่ไม่ไกลจาก กรุงเทพฯ เดินทางสะดวก มีครบทั้ง ธรรมชาติ และ แหล่งวัฒนธรรม เปิดกางแผนที่ดูว่าจะไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง โอ้โห จังหวัดกาญจนบุรี มีอาณาเขตกว้างใหญ่ มีอำเภอท่องเที่ยวเยอะมาก ล้วนคุ้นหู อาทิ อำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิ และ อำเภอสังขละ 2Xf2E6aEU7n685eHEbXGYHrmWn2y7a62UWBrtZzodVdD ทริปนี้ กินแก้มตุ่ย ตะลุยเที่ยว เลือกที่จะเดินทางไปเที่ยว ผ่านเมืองไปจนถึงสุดขอบชายแดน แนะนำแหล่งเช็คอิน 5 จุด ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมพื้นถิ่น 

.
สะพานข้ามแม่น้ำแคว อยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เดินทางไปง่าย โดยเข้าไปทางตลาดบ้านค่าย จะมีที่จอดรถและเดินชมสะพานแล้วช้อปปิ้งของพื้นเมืองกันได้ต่อเลย โดยสะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ดีไซน์ให้มีรูปลักษณ์ในการก่อสร้างเป็นโครงสร้างเหล็กครึ่งวงกลมสลับโครงสร้างถัก นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูป ชมวิวได้สบายๆ ฉากหลังเป็นภูเขาสวยงาม ด้านข้างเป็นแม่น้ำใหญ่  ปัจจุบันใช้เป็นทางสัญจรของรถไฟสายธนบุรี ตอนที่ไป มีนักท่องเที่ยวที่เป็นเยาวชนมาทัศนศึกษา นักท่องเที่ยวทั่วไป ขึ้นไปกันเยอะ ประทับใจกับวิวความงาม เสร็จแล้วลงมาช็อปที่ตลาดบ้านค่าย ได้บรรยากาศการท่องเที่ยวสุดๆ ไปเลย แม้ว่าจะเคยไปมาหลายครั้งแล้วก็ตาม 









เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124  สถานที่ท่องเที่ยว จำลองสถานที่ให้เป็นเมืองโบราณ เดินทางออกจากตัวอำเภอเมืองไปไม่ไกลนัก ประมาณ 32 กิโลเมตร ตั้งอยู่ตรงทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์  อำเภอไทรโยค ใครไปแล้วเป็น GPS นำทาง แล้วไม่มองป้าย อาจขับรถเลยผ่าน ให้สังเกตปั้มน้ำมันบางจากเอาไว้ เพราะทางเข้าอยู่ติดกันเลย ที่นี่ มีพื้นที่ให้จอดรถเพียบ ก่อนเข้าชมต้องซื้อตั๋ว และแลกเงินรู ร้อยใส่เชือกให้ถือเข้าไปใช้จ่ายภายใน ด้านหน้าออกแบบเป็นประตูเมืองขนาดใหญ่ ทาสีแดงสวยสด จะพบรถลากและคนลากรถ คอยให้บริการถ่ายภาพเป็นที่ระลึก จากนั้น เดินเข้าไปชมด้านใน จะเป็นการนำเอาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวสยาม บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา สมัยรัชกาลที่ 5 มาจำลองให้ชม โดยเมืองมัลลิกาจะมีทั้ง บ้านเรือนทรงไทย ย่านร้านค้า สะพานข้ามน้ำ หอชมเมือง และพ่อค้าแม่ขาย พร้อมใจกันแต่งชุดไทยโบราณ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยนั้นจริงๆ ใครสนใจใส่ชุดไทย ก็มีบริการชุดไทยให้เช่า เดินชมเพลินเพลินถ่ายรูปสนุกมากๆ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา  09.00 – 20.00 น. เที่ยวได้อย่างสบายใจ เพราะที่นี่ ได้รับมาตรฐาน SHA จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำหรับค่าเข้าชมสถานที่ ผู้ใหญ่ 250 บาท,  เด็กและผู้สูงอายุ 120 บาท, บัตรเข้าชม รวมชุดไทย ผู้ใหญ่ 400 บาท / เด็กและผู้สูงอายุ 300 บาท













น้ำตกไทรโยคน้อย แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ อยู่ใกล้ตัวเมืองมากที่สุด ตัวน้ำตกจะอยู่ติดริมถนนสายหลัก สามารถเดินเข้าไปเพียง 100 เมตร เท่านั้น ไม่ต้องป่ายปีนให้เหนื่อย เหมาะเป็นจุดพักรถก่อนเดินทางไปเที่ยวจุดอื่นๆ รอบๆ น้ำตกมีร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ของพื้นเมือง มากมาย แนะนำให้ซื้อของขบเคี้ยว กล้วยฉาบ เผือกทอด อร่อยมากๆ วันที่เดินทางไปเที่ยว น้ำตกมีสายน้ำเยอะ ดูสวยงามมาก มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเทียวกันพอสมควร ถ่ายรูปกับน้ำตกได้สวย เพราะมีการจัดเส้นทางเดินให้เข้าไปใกล้กับน้ำตก เป็นสถานทีท่องเที่ยวที่แนะนำให้มาแวะ 






เขื่อนวชิราลงกรณ เดินทางไปเที่ยวสังขละ ต้องผ่านอำเภอทองผาภูมิ ขอแนะนำให้แวะเที่ยวเขื่อนวชิราลงกรณอีกแห่ง ขับรถเข้าไปด้านในจะมีจุดให้ถ่ายภาพ  เป็นสวนตกแต่งด้วยทุ่งดอกไม้ จากนั้น สามารถขับรถขึ้นไปชมวิวบริเวณสันเขื่อน ได้เห็นวิวมุมสูงสุดลูกตา เห็นผืนน้ำตัดกับท้องฟ้าสีสวย ขอบๆ มีผาหินแซมๆ เข้ามาในเฟรม  นอกจากนี้ ขับรถลงมาอีกนิด จะมี Sky Walk เป็นสะพานพื้นกระจก ให้นักท่องเทียวไปเดินเล่นถ่ายรูป หรือ ทำกิจกรรมต่างๆ  ใครสนใจสามารถเข้าไปเที่ยวกันได้ ทุกวัน ระหว่าง 06.00-18.00 น.  







สะพานมอญ สังขละบุรี  หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์  เป็นสะพานไม้ขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 850 เมตรทอดตัวยาวข้าม  แม่น้ำซองกาเลีย และผสานสองฝั่ง สามารถขึ้นไปเดินท่องเที่ยว นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีมนต์เสน่ห์ อบอวนไปด้วยวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวมอญ  โดยจะมีเด็กๆ มานั่งขายดอกไม้ และให้บริการถ่ายรูปคู่ สลับกับคนในพื้นเมืองที่จะวางหม้อหลายๆ ชั้นบนหัว กลายเป็นศิลปะชวนมอง ถ่ายรูปแล้วออกมาสวยงาม ตอนเช้าๆ ประมาณ 6.30 น. จะมีพระสงฆ์ออกมาบิณฑบาตร สามารถซื้อของใส่บาตรได้ที่นั้นเลย อีกฝั่งหนึ่งของสะพานจะเป็นตลาดยามเช้า มีร้านขายโจ๊ก ปาท่องโก๋ ให้นักท่องเที่ยวได้รองท้อง รสชาติพอกินได้ แต่ที่ได้รับคือบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความงดงาม ถ้าไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาวน่าจะดีที่สุด เพราะจะได้สัมผัสวิถีชาวบ้านท่ามกลางสายหมอกและลมหนาว ส่วนเรื่องที่พัก มีให้บริการเป็นจำนวนมาก เลือกดูกันได้ใน Agoda  ส่วนตอนค่ำๆ อยากให้แวะไปที่ตลาดชุมชน ที่นั่่นมีร้านขายของพื้นเมือง และร้านอาหารให้บริการมากมาย  






เที่ยวสะพานมอญ อยากแนะนำให้ใช้บริการ นั่งเรือเที่ยว 3 วัด ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ค่าบริการ 300-500 บาท แล้วแต่จำนวนวัดที่แวะเที่ยว   ถ้าไปครบ 3 วัด ประกอบด้วย  วัดสมเด็จ และ วัดศรีสุวรรณ เป็นวัดของชาวกระเหรี่ยง จากนั้นไปแวะที่ วัดจมน้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการามหลังเก่า เป็นวัดของชาวมอญ มีหลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ร่วมกันสร้างขึ้นตามแบบศิลปะพม่า ถ้าไปช่วงน้ำเยอะๆ จะมองไม่ค่อยเห็นวัด หากไปช่วงน้ำไม่มากนัก จะมองเห็นตัววัด และสามารถลงไปเที่ยวเที่ยวชมกันได้ 







เจดีย์พุทธคยา อยู่บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ เที่ยวสะพานมอญ ล่องเรือเที่ยว 3 วัดแล้ว ให้มาต่อที่นี่ ขับรถจากสะพานมอญมาไม่ไกล ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้น พอมาถึง จะได้พบกับ เจดีย์สีทอง ส่องแสงประกายระยิบระยับ สวยงามมาก  ภายในเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ โดย หลวงพ่ออุตตมะ ได้อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา เพื่อให้คนไทยได้สักการะบูชา ทั้งนี้ หลวงพ่ออุตตมะ ประสงค์ที่จะจำลอง เจดีย์พุทธคยา แห่งนี้ขึ้นในประเทศไทย เพราะเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าในประเทศอินเดีย ชาวพุทธในไทยจะได้มาสักการะกันได้สะดวกนั่นเอง 






ด่านเจดีย์สามองค์เป็นเขตสิ้นสุดชายแดนตะวันตกของประเทศไทย อยู่ที่ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี  ติดกับพรมแดนไทยกับพม่า ประวัติเล่าขานกันมาว่า เจ้าเมืองสังขละบุรี นำชาวบ้านมาก่อสร้างเจดีย์จากหินกองใหญ่ และกลายเป็นเจดีย์สามองค์ในปัจจุบัน ในสภาวะปกติ ด่านเจดีย์สามองค์ จะเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและพม่า เดินทางข้ามพรมแดนกันได้ ซึ่งจะมีบริษัททัวร์ ไกด์ คอยให้บริการทัวร์ท่องเที่ยว นอกจากนี้ บริเวณใกล้ๆ ยังมี ตลาดขายของพื้นเมืองให้นักท่องเที่ยวได้ช้อปปิ้งก่อนเดินทางกลับ 




การเดินทางไปเที่ยว อำเภอสังขละบุรี ควรจัดทริปสัก 2 คืน 3 วัน น่าจะกำลังพอดี เพราะต้องใช้เวลาในการเดินทางที่ยาวไกล จากตัวเมืองกาญจนบุรี มายังอำเภอสังขละ ต้องผ่านเนินเขาลาดชันหลายโค้งด้วยกัน ไม่สามารถเร่งความเร็วรถได้ กินแก้มตุ่ย ตะลุยเที่ยว ไปรอบนี้ จัดเวลาน้อยไปหน่อย 2 วัน 1 คืน กลับมา ค่อนข้างจะเหนี่อยสักหน่อย อย่างไรก็ตาม คิดว่า อำเภอสังขละบุรี  จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอีกจุดหมายหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวต้องไปให้ได้ เที่ยวเมืองกาญจนบุรี ไล่เรียงไปเรื่อยๆ รับรองว่า ได้ประสบการณ์ที่น่าประทับใจ  แล้วอย่าลืม เที่ยวในยุค New Normal ต้องให้ความสำคัญต่อการดูแลตัวเอง และรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการ สวมหน้ากากผ้า ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่าง กินร้อนช้อนกลาง รวมถึง เช็คอินแอพไทยชนะ เพียงเท่านี้ ก็เที่ยวไทยเที่ยวง่ายสนุกทุกทริป แล้วจร้า

#Amazingไทยเท่ 

#เที่ยวไทยเที่ยวง่ายสนุกทุกทริป  



กาญจนบุรี หลายอำเภอ..หลายแหล่งท่องเที่ยว ครบทั้ง ธรรมชาติ และ วัฒนธรรม กาญจนบุรี หลายอำเภอ..หลายแหล่งท่องเที่ยว ครบทั้ง ธรรมชาติ และ วัฒนธรรม    Reviewed by TIKKY88 on 05:20:00 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น