แรลลี่เที่ยว 2 จังหวัด ราชบุรี - สมุทรสงคราม เช็คอิน 5 แหล่งท่องเที่ยว แลดูวัฒนธรรมพื้นถิ่น

ไปเที่ยวกันเป็นหมู่คณะ สนุกดีนะ แบบว่าบางทีคนเพื่อนเยอะ ญาติแยะ อยากไปเที่ยวพร้อมๆ กัน ไม่มีไอเดีย ไปเที่ยวไหนดี มาครั้งนี้ กินแก้มตุ่ยตะลุยเที่ยว ได้ไปร่วมทริป  2 วัน 1 คืน ในรูปแบบแรลลี่ จัดโดย The Bangkok Insight สำนักข่าวออนไลน์ของคนรุ่นใหม่ ที่ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พาไปท่องเที่ยวทีเดียว 2 จังหวัด คือ ราชบุรี และ สมุทรสงคราม เช็คอินกัน 5 แหล่งท่องเที่ยว ได้แลดูวัฒนธรรมพื้นถิ่นของคนพื้นเมือง สนุกมากๆ 

คณะแรลลี่ ครั้งนี้ เดินทางไปด้วยกันกว่า 30 คน เดินทางมุ่งหน้าไปจังหวัดราชบุรี แวะกันที่แรกคือ อุทยานหินเขางู ตั้งอยู่บริเวณแหล่งภูเขาหินปูน ในสวนสาธารณะเขางู เดิมเป็นแหล่งระเบิดและย่อยหิน ต่อมาได้รับการปรับปรุงพื้นที่ให้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม  และเป็นแหล่งศาสนสถานที่เก่าแก่ อีกด้านหนึ่งของเขามีพระอยู่บนหน้าผา  นักเที่ยวเที่ยวนิยมแวะไปถ่ายรูป เพราะมีจุดชมวิวคล้าย กุ้ยหลิน จำลอง ในรูปแบบสวนสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดี ภาพรวมแล้วชอบมาก ได้สัมผัสกับบรรยากาศดี วิวสวย ไปในวันฟ้าใสๆ จะเห็นท้องฟ้าแจ่มๆ ตัดกับภูเขา  รับรองถ่ายรูปได้อย่างเพลิดเพลิน มีจุดชมวิวและจุดถ่ายภาพให้ถ่ายกันอย่างจุใจ 

ณ สัทธา อุทยานไทย ชื่อเดิมคือ “อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม” โดยผู้ก่อตั้ง ต้องการสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมรูปเหมือนของพระสงฆ์ และรูปเหมือนบุคคลสำคัญต่างๆ ที่ท่านผู้ก่อตั้ง ศรัทธายกย่อง ทั้งด้านแนวความคิดการทำงานและการดำเนินชีวิต ซึ่งได้จำลองไว้ภายในพื้นที่ๆ ที่เป็นสวนขนาดใหญ่ กว่า 42 ไร่  แบ่งจัดโซนต่างๆ มีการจำลองวิถีชีวิตวัฒนธรรมความเป็นไทยในภาคต่างๆ อีกด้วย ไฮไลท์คือ การจัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจ แสงสีเสียง สร้างความน่าสนใจให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างดีมาก นับว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ปลูกฝังรากเหง้าแห่งความเป็นไทยเพื่อการอนุรักษ์และสืบสานศิลปะไทยที่งดงาม สำหรับ ณ สัทธา อุทยานไทย  ตั้งอยู่ในอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี  ในช่วงเดือนธันวาคม จะมีการจัดงานแสงสีเสียง ใครสนใจ ให้ติดตามข่าวสารกันให้ดีๆ แล้วจะไม่พลาดงานดีๆ แห่งปี 

พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน ตั้งอยู่ที่วัดขนอน ตำบลสร้อยฟ้า ริมแม่น้ำแม่กลอง อยู่ห่างจากตัวอำเภอโพธารามประมาณ 10 กิโลเมตร  สถานที่แห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวที่รักในวัฒนธรรมไทย แวะเวียนไปชมกันเป็นจำนวนมาก โดยจะมีการจัดแสดงหนังใหญ่ ทำจากหนังที่ฉลุลวดลายสวยงาม จัดแสดงอยู่ในเรือนไทย  มีตัวหนัง จำนวน 313 ตัว  แบ่งเป็นชุด หนุมานถวายแหวน ชุดสหัสสกุมาร และเผากรุงลงกา เป็นต้น คณะแรลลี่ ได้เดินชมกันอย่างตื่นตาตื่นใจ สำหรับ ใครที่สนใจไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ เขาเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.  ใครไปเที่ยววันเสาร์ เวลา 10.00-11.00 น. จะมีการจัดแสดงเชิดหนังใหญ่ มีเพียงรอบเดียวเท่านั้น  สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 032233386, 0817531230 

คณะแรลลี่ ขับรถเที่ยวชมจาก จังหวัดราชบุรี และมาข้ามเข้าสู่จังหวัดสมุทรสงคราม ขับรถเที่ยวกันแบบสบายๆ ไม่เร่งรีบ เพราะสองจังหวัดนี้ มีพื้นที่ติดกัน โดยสถานที่แห่งแรกที่เราไปเที่ยวกันใน จังหวัดสมุทรสงครามก็คือ วัดจุฬามณี  เป็นวัดโบราณริมฝั่งคลองอัมพวา สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คนในพื้นที่ และ นักท่องเที่ยว นิยมเข้าไปสักการะ นั้นก็คือ ท้าวเวสสุวรรณ ที่เชื่อกันว่า ท่านช่วยอำนวยพรให้พบแต่สิ่งดีๆ  อยากบอกว่า ให้บูชา ผ้ายันต์รูปท้าวเวสสุวรรณ ติดมือกลับบ้านด้วย จะได้พบแต่ความโชคดี นอกจากนี้ คณะแรลลี่ ยังได้ทำภาระกิจ เก็บกวาดวัด เพื่อบำเพ็ญประโยชน์ เล็กๆ น้อย ที่อยากสะท้อนให้ นักท่องเที่ยวทั่วๆ ไป ได้ตระหนักถืงการร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคม อีกด้วย 

เย็นย่ำค่ำลง คณะแรลลี่ เข้าพักกันที่ โรงแรม ณ ทรีธารา สถานที่พักที่หรูหราสวยงาม เหมาะกับการไปพักผ่อนอย่างมาก ประทับใจในความใส่ใจบริการทุกรายละเอียดกับลูกค้า ที่สำคัญติดกับแม่น้ำอีกด้วย ตอนเช้าๆ ประมาณ 6.30 น. จะมีพระพายเรือมาให้ นักท่องเที่ยวได้ใส่บาตร เหมือนได้เป็นคนในพื้นที่ทำบุญให้จิตใจสดใส ท่ามกลางบรรยากาศที่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ หลังจากใส่บาตร กินอาหารเช้ากันแล้ว ก็มุ่งหน้าไปสู่จุดเช็คอินที่ 5 นั่นก็คือ ชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์

ชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ เป็นชุมชนที่มีวิถีผูกพันอยู่ริมคลองผีหลอก และเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับรางวัลดีเด่น ในด้านแหล่งท่องเที่ยว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 คณะแรลลี่ เดินทางมา เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมพื้นถิ่นที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตชาวสวน จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีศิลปินนักร้องเสียงทุ้มหล่อชื่อดัง พลพล พลกองเส็ง และลูกชาย น้องธันวา มาร่วมกิจกรรม  นักท่องเที่ยว ที่มาเยือนที่นี่ จะได้สัมผัสกิจกรรมในชุมชน ในรูปแบบฐานการเรียนรู้จากภูมิปัญญาชุมชน ได้แก่ กลุ่มอนุรักษ์น้ำตาลมะพร้าว กลุ่มอนุรักษ์เรือพาย กลุ่มผลิตภัณฑ์เกษตรปลอดสารแบบพอเพียง  กลุ่มนวดแผนไทย กลุ่มทำขนมไทย และกลุ่มทำผ้ามัดย้อม เป็นต้น 

สำหรับ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ เกิดจากแนวคิดของกลุ่มชาวบ้าน ที่เห็นถึงคุณค่าของธรรมชาติความเป็นบ้านสวนริมน้ำ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่ใช้เรือเป็นพาหนะมาตั้งแต่เดิม วิถีชีวิตการประกอบอาชีพของชาวสวนมะพร้าว การทำน้ำตาลมะพร้าว สวนผลไม้หลากหลายพันธุ์ นับวันจะถูกคนรุ่นใหม่ทอดทิ้งให้รกร้างไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่มีคุณค่าเป็นที่สนใจของคนต่างถิ่น สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของชุมชนคือ หิ่งห้อยและต้นลำพูซึ่งเป็นอัศจรรย์ธรรมชาติที่อยู่คู่กับชาวแม่กลองตั้งแต่อดีตกาล นับเป็น อีกส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้เกิดแนวคิดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ใครมาที่นี่ ต้องประทับใจอย่างแน่นอน 

ความสุข ความประทับใจ ในการเข้าร่วมทริปท่องเที่ยวในรูปแบบแรลลี่ ครั้งนี้ กินแก้มตุ่ย ตะลุยเทียว จะจำความตราตรึงนี้ไปอีกนาน และแน่นอน ในการเข้าร่วมทริปท่องเที่ยว ผู้เข้าร่วมทุกคนล้วนให้ความใส่ใจในการรักษากฎ New Normal อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น สวมหน้ากากผ้า ร้กษาระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ กินร้อนช้อนกลาง และ เช็คอินแอพไทยชนะ ทุกครั้ง ขอขอบคุณ สำนักข่าวออนไลน์ The Bangkok Insight และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ได้จัดทริปดีๆ แบบนี้ 

#Amazingไทยเท่ 

#เที่ยวไทยเที่ยวง่ายสนุกทุกทริป