ตะลุยเที่ยวกิน ถิ่นอ่างทอง

เมืองไทยของเรามีวันหยุดยาวๆ ในวันสำคัญทางศาสนาอยู่บ่อยๆ กินแก้มตุ่ย ตะลุยเที่ยว พักอยู่กรุงเทพฯ บางครั้งก็อยากมีทริปไปเที่ยวไหว้พระ หาของกินอร่อยๆ ที่ไม่ไกลมากนัก และคนยังไม่ค่อยไปเที่ยวกันมากนัก เพื่อจะได้ไม่ต้องไปแออัดแย่งกันเที่ยว พลันก็คิดถึงเมืองอ่างทอง เพราะเคยมีญาติอาศัยอยู่ที่นั่น เห็นมีวัดวาอาราม และอาหารถิ่นน่าสนใจ จึงได้ลองเดินทางไปท่องเที่ยว และเสาะแสวงหาของกิน มารีวิว ฝากเพื่อนๆ

 

จังหวัดอ่างทอง อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ แค่เพียง 100 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น ระหว่างทางยังผ่าน จังหวัดอยุธยา ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยว และของกินอร่อยให้แวะชิมทั้งขาไปและขากลับ โดยขาไป กินแก้มตุ่ย ได้แวะที่จังหวัดอยุธยา เพื่อกินขนมโรตีสายไหม ขนมหวานขึ้นชื่อของที่นี่ บังเอิญผ่านไปบริเวณ หน้าโรงพยาบาลอยุธยา แหล่งขายขนมโรตีสายไหม เห็นคนต่อคิวซื้อขนมโรตีสายไหมตรง “ร้านสุธาสินี ไม่ดัง…แต่อร่อย”ทริป “ตะลุยเที่ยวกิน ถิ่นอ่างทอง” จึงเริ่มต้นกันที่นี่

 

โรตีสายไหม “ร้านสุธาสินี ไม่ดัง…แต่อร่อย” อยู่ตรงบริเวณหน้าโรงพยาบาลอยุธยา ร้านนี้มีแป้งโรตีหลายสี โดย “รสลูกตาล” จะขายดีที่สุด สีเหมือนขนมตาลนึ่ง มีกลิ่นหอมอ่อนๆ พันกับเส้นน้ำตาลที่หวานละมุน เข้ากันได้ดี คอนเฟิร์ม ว่าอร่อย ร้านนี้คนซื้อจะต่อคิวค่อนข้างยาว ส่วนใหญ่จะโทรมาสั่งไว้ก่อนล่วงหน้า ราคาแบ่งเป็นชุดละ 35 บาท ไปจนถึง 100 บาท 

 

 

 

ตลาดน้ำหลวงปู่ทวด การเดินทางช่วงพื้นที่ “อยุธยา” เชื่อมต่อกับ “อ่างทอง” จะมีตลาดน้ำหลวงปู่ทวด ก่อนนี้ “กินแก้มตุ่ย ตะลุยเที่ยว” ผ่านไปมาหลายครั้ง แต่ไม่เคยแวะมาก่อน พอได้แวะแล้วรู้สึกชื่นชอบมากๆ เพราะตั้งแต่ทางเดินเข้าไปสักการะ จะเป็นตลาดน้ำ มีพ่อค้าแม่ขายนำของกินมาขายมากมาย ได้ชิมหลายๆ ร้าน และได้ร้านมาแนะนำเพื่อนๆ ว่าถ้ามีโอกาสไปสถานที่แห่งนี้ ควรชิมอย่างยิ่ง นั่นก็คือ ทองม้วนสด, ร้านขนมสามเกลอ, ร้านตะเพียนปลาต้มเค็ม ร้านลูกชิ้นยักษ์ และ ทอดมันสูตรโบราณ เดินไปเกือบสุดทางตลาด จะมีทางให้เดินข้ามน้ำไปกราบหลวงปู่ทวด ซึ่งที่เป็นรูปองค์พระขนาดมหึมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อินทร์โตฟาร์ม เป็นฟาร์มเมล่อนที่บรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมและถ่ายภาพในสวนเมล่อนได้ โดยด้านในเป็นแปลงสวนเมล่อนขนาด 90 ไร่ ด้านในสุดมีรูปปั้นเมล่อนขนาดใหญ่ เป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาก็จะเข้าไปถ่ายรูปเช็คอิน บริเวณด้านหน้าของฟาร์ม จะเป็นร้านขายปลีกผลเมล่อน อีกทั้ง ยังมีบริการอาหารและเครื่องดื่มที่ทำจากเมล่อนอีกด้วย หากไปวันธรรมดา จะมีแต่พวกเครื่องดื่ม ไอศกรีม และปิงซูเมล่อน และถ้าไปตรงกับวันหยุดจะมีบริการอาหารที่ใช้เมล่อนเป็นส่วนประกอบ ดูจากเมนูแล้วมีหลายสิบรายการ หน้าตาน่ากิน เสียดายวันที่ กินแก้มตุ่ย ตะลุยเที่ยว ไปเป็นวันธรรมดานับว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะแวะชาร์จพลังให้กับตัวเอง 

 

 

 

 

 

 

 

ตลาดศาลเจ้าโรงทอง ตลาดแห่งนี้นับเป็น ตลาดโบราณวิเศษชัยชาญ ที่ยังคงเสน่ห์และความงดงามในความเก่าแก่ ขนาดตลาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ภายในตลาดมีร้านขนมโบราณขายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนมบ้าบิ่น ขนมเกสรลำเจียก โดยขนมลำเจียกถ้าไปช่วงวันหยุด ร้านครูมาลี จะทำโชว์กันสดๆ ทำสดใหญ่ รสชาติอร่อยมาก สมกับเป็นขนมประจำจังหวัด เดินเที่ยวตลาดศาลเจ้าโรงทอง จะเดินเป็นวงกลม เวียนถึงกันได้ ด้านในตลาดจะมีแยกให้เดินเข้าไปศาลเจ้ากวนอู คนถิ่นนี้ส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน จึงมีศาลเจ้าให้สักการะ ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชุมชน คนชอบถ่ายรูปเดินเข้าไปแล้วจะถ่ายรูปกันสนุกเพลิดเพลินเลยทีเดียว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ในช่วงเย็นๆ ตั้งแต่เวลา 4 ตรงแถวหน้าธนาคารกสิกรไทย จะมีตลาดอาหารพวกสตรีทฟู้ดออกมาเปิดร้าน กินแก้มตุ่ย ฯ เดินวนดู เห็น “ร้านข้าวผัดปากหมา” กับ “ร้านข้าวต้มปลาโบราณ” และ “ร้านข้าวเกรียบปากหม้อ” คนกินกันหนาแน่น เลยเข้าไปต่อคิวกินตาม ซึ่งไม่ผิดหวังเลย โดยเฉพาะร้าน “ข้าวผัดปากหมา”ที่คุณลุงเจ้าของร้านหัวใจอินดี้ ลงมือผัดไปบ่นไป มันช่างอร่อยติดปาก ติดใจ ร้านนี้ ขายแค่สองเมนูเท่านั้น คือ ข้าวผัดไข่ ใส่ซี้อิ๊วดำ กับ ข้าวผัดกระเพราคลุก ใช้พริกตำเอง ใส่กระเพราไม่ยั้ง ทำให้ได้รสชาติร้อนแรง เป็นที่ติดใจของคนในท้องถิ่นอย่างยิ่ง ถ้าใครไปอ่างทอง อยากให้แวะกินร้านนี้ให้ได้ แต่ไม่ที่ให้นั่งกินนะ ต้องห่อแล้วไปที่นั่งกินกันเอง 

 

 

 

 

 

 

 

 

ร้านนิรมิต อยู่ใกล้ๆ กับตลาดศาลเจ้าโรงทอง ตรงซอยวันนางใน 3 เป็นร้านขนาดใหญ่ คนในท้องถิ่นเข้าไปอุดหนุนกันเยอะ คนท่องเที่ยวก็มากมาย โดยอาหารขึ้นชื่อของร้านคือ กุ้งแม่น้ำเผา ขนาด 4 ตัว/กิโลกรัม , แกงเลียงกุ้งสด รสชาติกลางๆ ซดเปล่าๆ ได้ กินกับข้าวก็อร่อย, ปูหลน ใส่เนื้อปูและมีปูเป็นตัวใส่มาด้วย กินแกล้มกับผักสด, และไก่ทอดนิรมิต กินแก้มตุ่ย ตะลุยเที่ยว ได้แวะไปกินเป็นอาหารกลางวัน สั่งอาหารแนะนำทั้งหมดที่กล่าวมาลองชิม รสชาติสอบผ่านไปด้วยดี เมนูที่ติดใจมากที่สุดคือ ไก่ทอดนิรมิต มีความกรอบนอกนุ่มใน

 

วัดขุนอินทประมูล เป็นวัดพระนอนสีขาวองค์ใหญ่ มีความงดงามมาก คนนิยมไปสักการะและทำบุญ มีจุดให้ซื้อผ้าจีวร เพื่อร่วมห่มองค์พรและขอพร โดยจะนำชิ้นส่วนผ้าจีวรนี้มาเย็บรวมกันเป็นผืนใหญ่และนำไปห่มให้องค์พร ผู้ทำบุญสามารถเขียนชื่อนามกุลของตัวเองและญาติมิตร อันเป็นการเสริมศิริมงคล และใครมาวัดนี้จะเห็นริ้วผ้าจีวรฉีกเป็นเส้นๆ แขวนไว้นตามต้นไม้รอบๆ องค์พระ สามารถพกกลับไปเสริมสิริมงคลได้อีกด้วย คนที่มาที่นี่ มักจะนำมือไปสัมผัสที่กลางพระบาทขององค์พระนอน แล้วอธิฐานขอให้มีอายุยืนยาว ในบริเวณวัดยังมีโบสถ์โบราณภายในมีพระพุทธรูปหลายองค์ และต้นโพธิ์ใหญ่ให้ความร่มรื่น เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่ควรไปของเมืองอ่างทอง

 

 

 

 

 

 

 

บ้านสวนริมน้ำ ความตั้งใจของการเดินทางครั้งนี้ คือ พักหนึ่งคืน เพื่อการพักผ่อนในสไตล์ Slow Life ก็มาพบกับโฮมสเตย์ ชื่อว่า บ้านสวนริมน้ำบรรยากาศสงบร่มรื่นแบบสวนๆ คนดูแลเป็นคุณป้า กับคุณลุง และหมาบางแก้ว 3 ตัว มีห้องพักแค่เพียง 5 ห้อง เป็นห้องริมน้ำ 3 ห้อง และห้องในบ้านอีก 2 ห้อง ราคา ตั้งแต่ 900 –1,200 บาท รวมอาหารเช้า พวกข้าวต้มเครื่อง กับขนมปังและกาแฟร้อนใครชอบความสงบร่มเย็น ต้องชื่นชอบที่นี่ การบริการก็เป็นแบบกันเอง ตื่นตอนเช้าก็สามารถเดินข้ามถนนไปทำบุญถวายอาหารเช้าพระ ที่วัดวิเศษชัยชาญ ได้เลย อยู่ใกล้ๆ ตลาดศาลเจ้าโรงทอง พักที่นี่สะดวกดี 

 

 

 

 

วัดม่วง ภายในวัดมีพื้นที่กว้างใหญ่ แบ่งเป็นพื้นที่ของวัด ที่มีการจัดแสดงรูปปั้น เกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศ รวมถึงรูปปั้นต่างๆ แสดงให้เห็นถึง สวรรค์ นรก เทพเจ้าจีน เทพเจ้าพราหมณ์ พระอรหันต่ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม รูปปั้นเปรตขนาดใหญ่ เวสสันดรชาดกกัณฑ์ต่างๆ และยังมี รูปปั้นแสดงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงครามไทย-พม่าที่เมืองวิเศษชัยชาญ อีกมุมหนึ่ง จะมีองค์พระพุทธรูปสีทองอร่ามขนาดใหญ่มาก ด้านหลังวัดมีวังมัจฉาและร้านขายของมากมาย สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของดีเมืองอ่างทองได้ โดยของกินแนะนำก็คือ “ข้าวหลามกะทิสด” อร่อยมากๆ เป็นข้าวหลามสไตล์โบราณ ใส่ถั่วดำ เนื้อข้าวเหนียวไม่เละ มีความเค็มและหอมมันกะทิที่ลงตัว กินแล้วติดใจ ราคาขาย 3 กระบอก 100 บาท นับเป็นของดีที่ควรซื้อกลับไปเป็นของฝาก และกินเอง เป็นอย่างยิ่ง

 

 

 

 

 

  

 

 

ตลาดกลางเพื่อการเกษตร ในวันเดินทางกลับกรุงเทพฯ ออกสายๆ ให้มีถึงอยุธยาช่วงเที่ยงๆ แนะนำให้แวะ ตลาดกลางเพื่อการเกษตร เพราะที่นี่มีร้านอาหารหลายร้าน ขายอาหารพวก กุ้งแม่น้ำเผา และ ปลาเผา ในตลาดจะมีร้านเรียงรายตั้งแต่ปากทางเข้าตลาดไปจนถึงท้ายตลาด ชอบร้านไหนก็เลือกร้านนั้น โดยกุ้งจะมีหลายขนาดให้เลือก แตกต่างกันที่ไซด์และราคา เลือกกินตามงบประมาณที่มีนอกจาก กุ้งเผา แล้ว แนะนำเมนู น้ำพริกปลาร้าผัด มีร้านเปิดแผงขายหน้าตลาด ไปชมๆ ดูว่าชอบรสมือเจ้าไหน ก็อุดหนุนเจ้านั้น กินแก้มตุ่ย ตะลุยเที่ยว กินแล้วชอบมาก สะอาดอร่อย ไปครั้งไหน ก็ต้องแวะซื้อทุกที สำหรับ ตลาดกลางอยุธยาเปิดทำการทุกวัน อยู่ถนนสายเอเชียขาเข้า ให้สังเกตป้าย ตลาดกลางเพื่อการเกษตร ให้ดีไม่เช่นนั้นมีขับรถเลยแน่ๆ

 

 

 

 

เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ไม่เย็นมากนัก เป็นการปิดทริป ตะลุยเที่ยวกิน ถิ่นอ่างทอง แบบสบายๆ ไปสายๆ กลับไม่เย็นมาก พักผ่อน ไหว้พระ กินของอร่อย ได้ครบในทริป 2 วัน 1 คืน นับเป็นการไปพักผ่อนและเติมพลังงานให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี กินแก้มตุ่ย ตะลุยเที่ยว ขอแนะนำให้กับคนทำงานวัยหนุ่มสาว ที่มีเวลาไม่ค่อยมากนัก พาครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ ไปเที่ยวทริปใกล้ๆ กรุงเทพฯ แบบไม่เหนื่อยและถูกใจทุกๆมั่นใจว่า จังหวัดอ่างทอง คือตัวเลือกอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจมิใช่น้อย