"เสาร์ อาทิตย์ พาลูกไปไหนดี "
คำถามที่น่าจะเจอกันทุกครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มีสมาชิกตัวน้อยๆ
และต้องการเสริมสร้างจินตนาการให้กับเด็กๆ เพื่อดึงให้ห่่างจากมือถือและสื่อสังคมออนไลน์บ้าง ครอบครัวไหน คิดเช่นนี้ ขอแนะนำ "ไร่หยดพิรุฬ" สถานที่ท่องเที่ยวที่่ไม่ไกลกรุงเทพฯ มากนัก โดยเป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่เหมาะกับเด็กๆ ในแนวคิดวิถีชีวิตแบบธรรมชาติ ปลูกผัก เผาถ่าน ทำอาหารด้วยตัวเอง เพิ่มประสบการณ์ให้กับเด็กๆ ซึ่งไม่สามารถหาได้ในหนังสือ หรือ ตำราเล่มไหน จะน่าสนใจขนาดไหนไปชมกันได้เลยครับ
ไร่หยดพิรุฬ ตั้งอยู่ที่ ต.บางกระบือ
อ.เมืองจ.สิงห์บุรี ห่างจากกรุงเทพประมาณ 130
กิโลเมตรเท่านั้นเอง (เดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง)
ไร่หยดพิรุฬ มีพื้นที่ประมาณ 6 ไร่
พื้นที่ถูกจัดวางอย่างมีเสน่ห์และน่าสนใจ แต่ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปก็ได้ เพราะเป็นไร่ปิด โดยในแต่ละเดือนจะจัดให้มีกิจกรรม "เปิดรั้วเปิดไร่" เดือนละ 2 ครั้ง ในช่วงกลางเดือนและปลายเดือน เพื่อให้ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมหรือลงคอร์สเรียนได้เช้ามาใช้พื้นที่ ซึ่งจะต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น
เมื่อจองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางไร่ได้แจ้งรายละเอียดให้นำชุดมาเปลี่ยน และอธิบายกิจกรรมที่จะเจอในวันนั้นๆ กันอย่างละเอียด
พวกเราออกจากบ้านกันตั้งแต่ 06.30 น. โดยเด็กๆ ดูตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ ส่วนเราแอบคิดในใจว่า ลูกเราจะโอเคมั้ย ถ้าต้องไปเจอกับธรรมชาติจริงๆ แบบนั้น สำหรับการเดินทางไม่ได้ยากลำบาก ถนนเป็นเส้นตรงยาวๆ ของกินมีให้แวะชิมตลอดทาง ซึ่งในทริปนี้ เลือกแวะกินข้าวแกง ที่ร้านข้าวแกงบางปะหัน
เมื่อท้องอิ่มก็ออกเดินทางต่อไปยังไร่หยดพิรุฬ มุ่งหน้าไปทางจังหวัดสิงห์บุรี โดยพวกเราเดินทางไปถึงไร่ประมาณ 09.00 นาฬิกา
ยังมีอีกหนึ่งครอบครัวที่เดินทางมาสมทบในกิจกรรมครั้งนี้ พอมาถึง “พี่นางฟ้า” ก็เริ่มชวนให้น้องๆเล่นเกมแจกขนม เป็นการช่วยให้เด็กๆ ได้ละลายพฤติกรรมและพร้อมที่จะสนุกเรียนรู้กันได้เป็นอย่างดี พอได้เวลา พี่นางฟ้าคนสวยก็พาเด็กๆ
ไปทำกิจกรรมที่ฐานต่างๆ
เผาถ่าน
กิจกรรมแรกที่เด็กๆได้เรียนรู้จักการเผาถ่านตั้งแต่การเตรียมขนาดพื้นที่ ขุดหลุม
วางไม้ ฝังกลบ จุดไฟ โดยถ่านของแท้ต้องสีดำ
ม้าก้านกล้วย และ ปืนก้านกล้วย
เราอาจเคยเจอกันมาบ้างในตอนเด็กๆ แต่สำหรับเด็กเมืองกรุงที่อยู่กับมือถือนั้น
ม้าก้านกล้วยดูเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจขึ้นมาทันทีที่ได้เห็น
กิจกรรมต่อมาก็คือการ "เพาะกล้า" ทุกขั้นตอนในการเพาะกล้า
เริ่มตั้งแต่ใส่ดิน ลงเมล็ด ฝังกลบ รดน้ำ จนได้พบกับต้นกล้าต้นเล็กๆและการย้ายกล้าไปสู่กระถางที่ใหญ่ขึ้น
ซึ่งเด็กๆดูตั้งใจกันมาก
และพวกเค้ายังรู้สึกรักธรรมชาติเพิ่มขึ้นมาอีกจากการได้ดูแลต้นไม้น้อยๆของตัวเอง ได้เห็นเด็กๆ ลงมือทำกิจกรรมกันอย่างมีความสุข นับเป็นภาพที่ประทับใจสุดๆ
เล่นโคลน ปั้นดินเหนียว ทุกคนดูจะชอบฐานนี้เป็นพิเศษ เพราะได้เล่นน้ำลุยโคลนกันอย่างเต็มที่ เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของเด็กๆแล้วมีความสุขจริงๆ
ทำอาหาร เรียนรู้กันมาทั้งวัน ก็ได้เวลาหาอะไรทานกันแล้ว ฐานนี้เด็กๆจะได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารแบบชาวบ้าน ไล่ตั้งแต่การก่อไฟด้วยถ่านที่พวกเค้าเผาเองกับมือ ผักในแปลงปลูกที่ช่วยกันเก็บมาทำอาหาร โดยมีคุณครูคอยสอนและช่วยเหลือในทุกขั้นตอน
เพราะเป็นฝีมือของพวกเค้าเอง
ซึ่งทุกคนลงความเห็นว่า ”อร่อยมาก”
หลังจากอิ่มกันแล้วทางไร่จะมีกิมมิกน่ารักๆให้เด็กทุกคนมาเพ้นท์สีใส่มือแล้วฝากความประทับใจเอาไว้ที่โอ่งขนาดใหญ่
เพื่อบอกว่าเค้าได้มาถึงแล้วและมีส่วนในไร่อย่างสมบูรณ์ และจบกิจกรรมประมาณบ่ายสี่โมงเย็น
ลองจัดเวลากันมาดูนะครับ
เชื่อว่าเป็นประโยชน์กับลูกของเรามากทีเดียว อีกทั้ง ยังเป็นกิจกรรมสันทนาการของครอบครัวที่มีความสุชในอีกรูปแบบหนี่ง ผู้ที่สนใจติดต่อ "ไร่หยดพิรุฬ" ได้ตามที่อยู่ด้านล่างนี้
Email : Raiyodpiroon@gmail.com
FB : RaiYodpiroon
LineID : @RaiYodpiroon
Tags
ท่องเที่ยว